เมนู

ราบเสมอ ฉันใด แม้วันและคืนทั้งหลาย ย่อมละคือผ่านเราไปได้โดยยาก
ฉันนั้น. ท่านกล่าวถึงเหตุในข้อนั้นไว้ว่า สุเข ลทฺเธ นิรามิเส เมื่อเรา
ได้ความสุขอันไม่เจือด้วยอามิส ดังนี้. อธิบายว่า เพราะเหตุที่ ความสุขคือ
ผลสมาบัติ อันไม่เจือด้วยอามิสคือกาม อามิสคือโลก และอามิสคือวัฏฏะ อัน
สงบระงับ ประณีต เราได้แล้ว. ก็บทนี้เป็นสัตตมีวิภัตติ แต่ลงในอรรถแห่ง
ปฐมาวิภัตติ. เหมือนอย่างในประโยคว่า วนปคุมฺเพ (พุ่มไม้) และในประโยค
ว่า เตน วต เร วตฺตพฺเพ (เรื่องที่จะพึงกล่าวอื่นยังมีอยู่อีก) ดังนี้ อีก
อย่างหนึ่ง ท่านกล่าวว่า เมื่อเราได้ความสุขอันไม่เจือด้วยอามิส ดังนี้ ก็โดย
พิจารณาว่า จำเดิมแต่นั้น วันและคืน ก็ผ่านไปโดยยาก ดังนี้. อธิบายว่า
เมื่อสุขที่ปราศจากอามิสอันเราได้แล้ว มีอยู่ จำเดิมแต่เวลาที่เราได้ นิรามิสสุข
นั้น ดังนี้.
จบอรรถกถาเพลัฏฐสีสเถรคาถา

7. ทาสกเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระทาสเถระ


[154] ได้ยินว่า พระทาสกเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้อย่างนี้ว่า
เมื่อใด บุคคลเป็นผู้ง่วงเหงา และกินมาก มัก
นอนหลับ กลิ้งเกลือกไปมา เมื่อนั้น เขาเป็นคนเขลา
ย่อมเข้าห้องบ่อย ๆ เหมือนสุกรใหญ่ ที่เขาปรนปรือ
ด้วยเหยื่อฉะนั้น.

อรรถกถาทาสกเถรคาถา


คาถาของท่านพระทาสกเถระเริ่มต้นว่า มิทฺธี ยทา. เรื่องราวของท่าน
เป็นอย่างไร ?
ได้ยินว่า ในกัปที่ 91 แต่ภัทรกัปนี้ เมื่อพระตถาคตเจ้ายังไม่ได้เสด็จ
อุบัติขึ้น ท่านได้ถวายผลมะม่วง อันน่าพึงใจแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า นามว่า
อชิตะ ผู้ลงจากเขาคันธมาทน์มาสู่คลองแห่งมนุษย์ แล้วเที่ยวบิณฑบาตในบ้าน
แห่งใดแห่งหนึ่ง ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์
ทั้งหลาย แล้วบวชในศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า กัสสปะ
ได้กระทำบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมาก.
ท่านขวนขวายกุศลกรรมอย่างนี้ ละจากสุคติเข้าถึงสุคติ เกิดในเรือน
มีตระกูล ในพระนครสาวัตถี ในพุทธุปบาทกาลนี้. ท่านอันอนาถบิณฑิก
เศรษฐี แต่งตั้งไว้ในหน้าที่ปฏิบัติพระวิหาร ก็ปฏิบัติพระวิหารโดยเคารพ
ได้มีศรัทธา โดยได้เห็นพระพุทธเจ้า และโดยการฟังพระสัทธรรมเนือง ๆ
บวชแล้ว. ส่วนอาจารย์บางพวกกล่าวว่า พระทาสกเถระนี้เกิดในเรือนมี
ตระกูล ในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า กัสสปะ เจริญวัยแล้ว
บำรุงพระเถระผู้เป็นพระขีณาสพรูปใดรูปหนึ่ง มีความประสงค์จะให้ท่านช่วย
ทำกิจบางอย่าง จึงสั่งบังคับท่าน ด้วยกรรมนั้น เขาเกิดในท้องของหญิงทาสี
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ในพระนครสาวัตถี ในกาลแห่งพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าของเราทั้งหลาย เจริญวัยแล้ว อันท่านเศรษฐีแต่งตั้งไว้ในตำแหน่ง
ผู้ปฏิบัติพระวิหาร ได้เป็นผู้มีศรัทธาแล้ว โดยนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล. ท่าน-
มหาเศรษฐีสดับ ศีลาจารวัตร และอัธยาศัยของเขาแล้ว กระทำให้เขาเป็นไท